วันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ยี่แซน ผู่เอ่อร์ดิบ เกาซัน ปี 2007

สวัสดีครับผม .... วันนี่ผมแกะชาแผ่นใหม่ ที่ได้มาหลายปีแล้ว ได้มาตั้งแต่ตอนที่ยังดื่มชาใหม่ๆ ตอนนั้นผมว่าชาตัวนี่ดีเลยตัวหนึ่ง แต่ตอนนี่ผมว่าความคิดผมเปลี่ยนไป ผมว่าประสบการณ์ทำให้ผมดื่มชามีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นน่ะครับ   เรามาดูหน้าตาชากันดีกว่า .....  ตัวนี่เป็นชาปี  2007  ของบริษัท ยี่แซน เป็นชาเกาซัน ปลอดสารพิษครับ

หน้าตาชาครับผม....ชาแผ่นละ 200 กรัมน่ะครับ 
ด้านหลังครับผม 
รายละเอียดชาแผ่นนี่ครับผม
เปิดออกมาหน้าตาชาเป็นแบบนี้ครับผม ... ที่เห็นนูนๆขึ้นมานั้น เค้าทำตัวหนังสือครับผม ถ้าใครสังเกตใบชาจะพบว่าใบชาดูเล็กๆ ลีบๆๆ น่ะครับ และไม่ค่อยพบก้านชาเท่าไรเลย สีของใบชาก็เริ่มเข้มขึ้นหน่อยแล้วครับ ...ดูจากสีใบชามีสีอ่อนๆด้วย ก็แสดงว่ามียอดชาผสมอยู่ด้วยพอประมาณครับ
ด้านหลังครับผม ด้านหลังก็แทบจะไม่เห็นก้านชาครับ เค้าก็ทำเหมือนหน้าด้าน อัดชาเป็นหนังสือนูนๆ ด้านหลังนี้ อัดเป็นตัวหนังสือคือ 200G กับ ตราบริษัทครับ จากที่ผมสังเกตอีกอย่างหนึ่งคือ ผมไม่เห็นรอยผ้าบนใบชาเลยครับ  เหมือนเค้าใช้บล็อกเหล็กอัดเลยน่ะผมว่า
มาดูใบชาใกล้ๆกันดีกว่า

ขอบชาครับผม หน่าๆครับผม 
แซะๆๆ ชงดื่มดีกว่า.....เค้าอัดมาแน่มากๆครับ 
คราวนี่มาดูเรื่องของ สี กลิ่น รส ของชากันดีกว่า..... สีของน้ำชาครับผม (น้ำแรก) สีน้ำชาเข้มแล้วครับตามอายุของเค้า น้ำสีใส สวยดีครับ  กล่ินครับ กล่ินหอมดีน่ะ  ขณะชงอยู่กลิ่นหอมมาเลย  รสครับผม  หลังจากดื่มคำแรก ผมว่า อืม.....ทำไมมันจึดจัง  หวนกับไปถึงถึงอดีตที่บอกว่าชาตัวนี่มันหวานๆ เอ๋....ทำไมคิดแบบนั้น สงสัยประสบการณ์การดื่มชาเพิ่มขึ้น หลากหลายตัว ทำให้ผมมีตัวเปรียบเทียบมากขึ้น ..เข้าเรื่องต่อดีกว่า ดื่มไปแล้ว มันจึดครับผม มีแต่กล่ินหอมๆ แต่ไม่มีรสชาติ ไม่ซับซ้อนอะไรเลย   กลิ่นควันไฟไม่มี แต่ยังติดฝาดนิดๆครับผม  น้ำท้ายๆ สักน้ำเจ็ดหรือน้ำแปด สีน้ำชายังอยู่ ความหอมจางๆ เพิ่มเวลาในการแช่ชาหน่อย กลับพบว่าความฝาดกับชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งถ้าเป็นชาบ้างตัวแช่นานไม่ฝาดแต่ได้ความหวานมาครับ  ความประทับใจในชาตัวนี่ในอดีตก็มลายหายไป ....ประสบการณ์จะทำให้ผมดื่มชามีพัฒนาการที่ดีขึ้น และทำให้ผมเริ่มหาชาดื่มยากขึ้นเช่นกัน ฮ่าๆๆ 
กากชาครับ ..... เหมือนตอนต้นที่บอกว่ามันดูเล็กๆลีบๆ พอสังเกตดูใบชาดูเล็กๆ ไม่ใหญ่แต่กากชาไม่ยุ้ย


วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ดื่มชาก็เห็นธรรมได้

                สวัสดีครับทุกท่าน ....  ช่วงนี่อาจจะไม่ได้รีวิวชาหรือหาข้อมูลมาฝากกัน เป็นโหมดของการบ่นๆไปเรื่อยๆครับผม  สัญญาว่าจะรีวิวชาให้ชมอีกน่ะครับ  เหตุอันเนื่องวันนี่นั่งดื่มชายี่หวูเจิ้นซาน ระหว่างดื่มไปก็นั่งมองวิวไปเรื่อยๆครับ คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย  แล้วมีอยู่ช่วงระหว่างรินน้ำชงชา ความคิดที่ไม่เคยคิดก็เกิดขึ้น (แต่ผมว่าคนอื่นคงคิดได้ก่อนผมนานแล้วแน่ๆ ฮ่าๆๆ ) คือ  ใบชาที่เราดื่มๆกันทุกวันนี่ ถ้ามองเป็นธรรมมะก็ได้ เรื่องการ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป  ชาผู่เอ่อร์แต่ละแผ่น กว่าจะมาถึงมือเรา ต้องผ่านกรรมวิธีต่างๆกว่าจะได้ดื่ม ตั้งแต่เป็นต้นชา ที่เจ้าของไร่ชาทนุทนอมอย่างดี บำรุงต่างๆนาๆ ไม่ให้เสียหาย  แต่ถ้าเป็นชาป่าก็ปล่อยไปถามธรรมชาติให้เค้าดูแลตัวเอง เมื่อถึงเวลาเราก็ไปเก็บยอดชาที่ดีเพื่อมาผลิตเป็นชา ผ่านกรรมวิธีต่างๆเพื่อให้ได้ชาชั้นดี เก็บรักษาอย่างดี ไม่ให้ได้รับความเสียหาย เมื่อมาถึงเราก็แซะชง ดื่มด่ำกับความสุนทรีย์ในรสชาติและความหอมของน้ำชา แต่เมื่อชากานั้นจืดสนิทเราก็ทิ้งเค้าเป็นกากชาที่ไม่ได้รับการดูแล บางครั้งดีหน่อย อาจจะไปทำเป็นปุ๋ย หรือ หมอนจากกากชา  ....  ถ้ามองในมุมกลับ เหมือนชีวิตคนเราเหมือนกันเนอะ เมื่อยามที่เรามีประโยชน์ทุกคนก็จะเข้าหา แต่เมื่อหมดประโยชน์เค้าเหล่านั้นก็ทิ้งเราไป  เรื่องแบบนี่ผมเจอบ่อยสุดคือชีวิตในการทำงานครับ ......  นี่คงเป็นข้อดีของการได้ดื่มชาคนเดียว ได้คิดไรแปลกๆ ฮ่าๆๆ    การดื่มชาทำให้ผมได้พบสหายชามากมาย ต้องขอบคุณชาที่เป็นสื่อกลางที่ทำให้ผมได้พบประสหายชาทุกท่าน ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์มากมาย ทั้งแต่เรื่องชาและไม่ใช่เรื่องชา  ขอบคุณมิตรภาพที่มีให้กันครับผม ทั้งในบล็อก และในเฟสบุ๊ค บางท่านผมยังไม่มีโอกาสได้ดื่มชากันเลย หวังว่าเราคงมีโอกาสได้ดื่มชาด้วยกันน่ะครับ ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องชากัน ^_^
             ผมเคยพูดกับพี่ๆน้องๆในก๊วนชาเสมอว่าการดื่มชาไม่ใช่ดูว่าใครดื่มชาถูกหรือแพง แล้วจะบอกว่าคนนั้นดื่มชาเป็นหรือไม่เป็น  แต่ให้ดูที่ว่าเค้าคนนั้นดื่มแล้วแยกแยะได้หรือเปล่า แยกแยะว่าชาไหนดีี ชาไหนไม่ดี  นี่คือสิ่งสำคัญของการดื่มชา ดื่มชาแพงแต่แยกแยะไม่ได้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรแบบนี่ไม่ต่างกับการดื่มชาตลาดทั่วไป ซึ่งชาในตลาดมีอยู่มากมายหลายอย่างหลายราคา อยู่ที่เราจะเลือกดื่มตัวไหน บางตัวแพง บางตัวก็ถูก ก็เหมือนการเลือกคบเพื่อนอยู่ที่เราจะเลือกว่าเราจะเลือกคบคนแบบไหน  ซึ่งเจ้าหยุยได้กล่าวไว้ว่า " นายชั้นยอด เลือกครู เป็นผู้ช่วย นายชั้นกลางเลือกสหาย เป็นผู้ช่วย นายชั้นต่ำ เลือกข้าราชการ เป็นผู้ช่วย นายที่ใกล้พินาศ เลือกทาส เป็นผู้ช่วย" ผมว่าคำกล่าวนี้มีมาหลายร้อยปี แต่ก็ยังใช้ได้กับปัจจุบันนี้มันอยู่ที่เราเลือกว่าจะเป็นแบบไหน
         อีกไม่กี่วันก็จะปีใหม่แล้ว ขอให้ทุกท่าน มีความสุข ความเจริญในหน้าที่การงาน ครอบครัวมีความสุข สุขภาพแข็งแรง สมดั่งหวัง เป็นที่รักใคร่ของคนที่พบเห็น ใครที่คิดร้ายขอให้คนผู้นั้นแพ้ภัยตนเอง มีชาดีๆดื่มตลอดไป .........สวัสดีปีใหม่ ปี 2556


       


วันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ชงชาด้วยน้ำฝน

สวัสดีครับ วันนี่ผมมีเรื่องจะมาเล่าให้ฟังมันเป็นความเพี้ยนของผม ...... ช่วงนี้หาดใหญ่ฝนตกทุกวันครับ ตกได้ตลอดวันตลอดคืนเลย  จนถึงวันนี่ก็ยังตกอยู่เลย อาทิตย์กว่าๆแล้วครับ แต่่กลางคืนจะตกหนักกว่า  ผมเลยเกิดไอเดียบรรเจิดขึ้นมาคือ....ไปรองน้ำฝนเอาไว้ชงชาครับ ....  หลังจากคิดได้ดังนั้น ก็เลยไปหาอุปกรณ์รองน้ำฝนมาเป็นหม้อใหญ่ๆสามใบ เอามารองน้ำฝนครับ  ทิ้งไว้นอกระเบียงทั้งคืน ตื่นเช้ามาน้ำฝนเต็มทั้งสามใบเลย ส่องดูว่ามีตะกอนอะไรหรือเปล่า พบว่าน้ำใส่กิ๊กไร้ตะกอน ...ผมเคยไปอ่านบทความเกียวกับน้ำฝน ในบทความเขียนว่า "น้ำฝนเป็นน้ำที่สะอาดที่สุด เพราะเกิดจากการระเหยของน้ำขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ แล้วตกลงมา โดยไม่ได้ผ่านสิ่งใดเลย" ทุกคนคงสงสัยว่าเอะ...แล้วจากสภาพปัจจุบันมันดื่มได้หรอ ในบทความบอกว่าดื่มได้ แต่ต้องเป็นน้ำฝนในหน้ามรสุมครับจะเป็นน้ำฝนที่ดี แล้วก่อนจะรองต้องให้ฝนตกหนักๆสักระยะก่อนถึงจะรองได้ นี่ผมรอฝนตกมาสามวันถึงจะรอง เพราะฉะนั้นสะอาดเอี่ยมไร้กังวลเรืองต่างๆได้เลย  ใครอยากอ่านเพิ่มเติ่มเกี่ยวกับน้ำฝน http://rain.pantown.com ตามนี้เลยครับ เข้าไปอ่านได้เลยเค้าอธิบายไว้ละเอียดเลยครับผม ..... หลังจากได้น้ำฝนมาจัดการใส่โอ่ง(ที่ไม่สวยเลย) ก่อนใส่โอ่งก็กรองด้วยผ้าขาวสะหน่อย คราวนี้ก็ก่อไฟตั้งเตาถ่านครับผม จัดการต้มน้ำ ฮ่าๆๆ  แล้วผมก็เลือกใช้ชาปิงเตาปี2012 ในการชงครับ เหตุผลที่เลือกชาปิงเตา2012 เพราะเป็นชาที่ผมดื่มประจำทุกวันเพราะฉะนั้นถ้าเกิดมีอะไรเปลี่ยนแปลงในน้ำชาที่ดื่มไปผมจะสังเกตเห็นได้ชัดเจนที่สุด หลังจากน้ำเดือดก็ชงเลยครับไม่รอช้า ....ผลคือ อืม...น้ำชาหวานดีจัง นุ่ม ไม่กระด่างเลย   ถือว่าใช้ได้เลยครับผม ต่างจากน้ำที่ใช้ชงครั้นก่อนนะนี้ ใช้ได้ๆ   .....  ผลจากการต้มครั้งนี้ ทำให้ผมเกิดติดใจ รองน้ำฝนให้เต็มโอ่งเพื่อจะได้ชงชาในครั้งต่อไป ฮ่าๆๆ  เลยอยากแนะนำให้เพื่อนๆรองหาน้ำฝนมาชงชากันครับ รองดูแล้วคุณจะติดใจ ถ้าไม่สะดวกกับการรองน้ำฝนเอง นี่เลยครับเดียวนี้เค้ามีน้ำฝนจำหน่ายกันแล้ว แต่ก็แพงเอาเรื่องอยู่น่ะ....ถ้าใครได้ชงชาโดยใช้น้ำฝนแล้ว อย่าลืมมาเล่ากันฟังด้วยน่ะครับ


รูปประกอบไม่เกี่ยวกับน้ำฝน แต่เป็นโต๊ะชงชาในห้องนอนครับผม ติดกับโต๊ะทำงานเลย หันมาก็ชงได้เลย 

วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555

DHL ส่งชา

วันนี่นั่งดูเว็ปบอร์ดฝรั่งมาเลยเจอรูปนี้มาเจ้าของภาพบอกว่าสั่งชามาแล้วขนส่งทางDHLปรากฏว่าชาหักไม่เป็นชิ้นดีเลยครับ โดนแกะดูด้วย มาดูรูปกันดีกว่า


สภาพกล่องเละดูไม่ได้เลยครับผม 
เปิดลังออกมาสภาพชาโดนแกะออกมาหมดเลย 
เห็นชาแล้วหัวใจสลาย 
ชาไม่เป็นรูปเป็นร่างเลย Y_Y

เอามาฝากเพื่อนๆกันครับ ใครที่สั่งชาจากเมืองนอกบ่อยๆก็ต้องระวัง ตม.อาจจะเปิดแกะดู แล้วทำให้ชาเสียหาย หรือ เปียกน้ำน่ะครับ ระวังๆกันด้วยน่ะครับ 

วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ผู่เอ่อร์ดิบเขายี่หวู ชาป่า ติงเจียจ้าย (Ding Jia zhai) ปี 2012

ชาแผ่นนี่เป็นชาที่ผมจะเก็บเป็นชาตัวสุดท้ายของปีนี้ครับผม..... อีกไม่กี่วันก็จะปีใหม่แล้ว เลยได้โอกาสเลยเปิดชาแผ่นใหม่ครับ เอ๋...มันเกี่ยวกันด้วยหรอ ฮ่าๆๆ   ชาแผ่นนี้เป็นชาจากเขายี่หวู หมู่บ้านติงเจียจ้ายครับ เป็นชาฉุนเลี่ยว ชาป่า ปี2012 ครับผม  เห็นอายุน้อยๆแบบนี้ อย่าได้ดูแคลนเค้าเซียวน่ะ ลูกสาวจากเขานี้ไม่ธรรมดาครับผม  ถ้าเก็บไปสักสามสี่ปี ผมว่าสุดๆครับตัวนี้ น่าเก็บมากๆ ผมเคยลงบทความเกี่ยวกับชาจากเขานี้มาแล้ว แต่เป็นยี่หวูเจิ้นซาน  ความเป็นยี่หวูก็มีความเหมือน ในความเหมือนก็ย่อมมีความต่างครับ .....  บ่นไรเยอะแยะนี้เด็กคนนี้ มาดูหน้าตาชากันดีกว่า

หน้าตาชาครับ.... ห่อมาได้เรียบร้อย เป็นแผ่นใหญ่ 400 กรัมครับ
ด้านหลังครับผม  มีสติกเกอร์ปิดตรงสายรัดด้วยครับผม 
มาดูหน้าตาชาดีกว่า ....... ใบชาสวยงามมากครับ สังเกตได้เลยว่ามีแต่ใบใหญ่ๆ  
ดูใบชากันอีกรอบ .....
ด้านหนังหลังครับผมมีหลุมตรงกลางเหมือนเดิมครับผม .......ใบชาด้านหน้าด้านหลังเกรดเดียวกันทั้งแผ่นครับ ด้าหลังใบชายังสวยเลย 
ขอบชาครับ.....ขอบชาจะหน่าๆน่ะครับ
แซะๆๆ  มีหักบ้าง ใบไหนไม่หักก็ออกมาเป็นใบใหญ่ๆเลยครับ
ชงๆ ชาดีๆ ต้องชงด้วยป้านดีๆครับผม 
คราวนี่มาดู สี กลิ่น รส ของน้ำชากันดีกว่าครับ ..... (จากรูปน้ำแรกน่ะครับ) สีของน้ำชาสีเข้มดีครับผม  ใสไม่ขุ่นมัวครับ รสชาติครับผม เห็นสีเข้มๆแบบนี้แต่รสชาตินุ่มมากครับผม  ความฝาดนี้มีนิดเดียว นิดเดียวจริงๆ ถ้าดื่มแบบไม่สังเกตก็ไม่รู้เลยว่ามีความฝาดครับผม หวานในลำคอ กล่ินครับผม กลิ่นนี้หอมหวานครับ ถ้าใครเคยดื่มชาจากเขายี่หวูก็จะสามารถรับรู้ได้ทันที่ว่าชามาจากไหน ดื่มครั้งแรกผมคิดถึงชายี่หวูเจิ้นซานเลยครับ กลิ่นคล้ายกันๆ มันเป็นกลิ่นเฉพาะตัวของยี่หวูครับผม เรื่องกลิ่นควันแผ่นนี่ไม่มีกล่ินควันครับ   และชงทนมากๆครับผม ผมชงได้ 15 น้ำครับผม น้ำท้ายๆ ยังหวานอยู่เลย เหมือนคำกล่าวที่ว่า" ชาดีน้ำท้ายๆจะฟ้อง" ผมว่าคำพูดนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าชาตัวนี้เป็นจริงดั่งที่ว่าครับ  ....ส่วนความต่างระหว่างปิงเตากับยี่หวู  สำหรับผมเปรียบปิงเตาเหมือนผู้ชายครับ เค้ามีความหนักแน่ในตัวเองทั้งในเรื่องของรสชาติและกลิ่นครับผม ส่วนชายี่หวูผมเปรียบให้เหมือนผู้หญิงครับ เค้ามีความนุ่มนวล หอมหวาน สองตัวนี่แตกต่างกันชัดเจนครับ ....อ่อชายี่หวู มีทั้งชาป่าและชาปลูกน่ะครับ เป็นยี่หวูเหมือนกัน แต่ให้รสชาติและกล่ินที่แตกต่างกันน่ะครับ 
กากชาครับผม.....กากชามียอดเยอะดีครับ ใบใหญ่ครับผม
มองเป็นกองๆไม่รู้ว่ายอดจริงหรือเปล่าผมเลยจัดการแยกมาให้ดูครับผม ยอดชาจริงๆน่ะ
ผมว่าชาแผ่นนี่เป็นชาที่ดีมากตัวหนึ่งเป็นชานี่น่าเก็บมากครับ นี้ขนาดปีแรกยังให้รสชาติที่ดี นุ่ม หวาน ขนาดนี้ เก็บไปอีกสักหน่อยอนาคตไกลครับผม  ....สุดท้ายผมต้องขอขอบคุณ คุณจางเจ้าของร้านชาทีดี ที่ได้นำชาดีๆมาให้นักดื่มชาชาวไทยได้ลิ่มลองกันครับผม  ใครสนใจอยากหาเก็บก็ไปสู่ขอจากร้านคุณจางได้เลยน่ะครับ ^_^

วันพุธที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ประโยชน์ของชาผู่เอ่อร์

วันนี่นั่งอ่านงานวิจัยเกี่ยวกับชาผู่เอ่อร์ ก็พบว่าเมืองนอกเขาศึกษากันอย่างจริงจังถึงประโยชน์ของชาผู่เอ่อร์ ผลจากการวิจัยที่เกี่ยวกับชาผู่เอ่อร์ มีสรรพคุณต่างๆ เช่น

  1. ชาผู่เอ่อร์มีสารต้าอนุมูลอิสระที่เรียกว่า Polyphenol Catechin รวมถึงเอ็มซายที่เกิดจากการหมักชา ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายสร้างความร้อนและเผาผลานพลังงาน จึงทำให้ผู้ดื่มชาผู่เอ่อร์ลดปัญหาการเกิดโรคอ้วนได้ และเอ็มซายที่เกิดจากการหมักชานี้จะจับตัวไขมันให้เป็นก้อน และจะขับออกจากการขับถ่าย
  2. พบว่าชาผู่เอ่อร์ช่วยลดคอลเรสเตอรรอล ไตรกรีเซอร์ไรล ช่วยลดไขมันเลว และเพ่ิมไขมันดี 
  3. ชาผู่เอ่อร์มีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่เยอะ คือสารEpigallocatechin Gallate และ Theabrownins  ที่จะช่วยลดการก่อสารมะเร็งบางชนิด  และยังสามารถกำจัดการลุกลามของเซลล์มะเร็ง โดยเข้าไปแทรงแซรงการก่อตัวและการลุกลามของมะเร็ง
  4. การชงชาผู่เอ่อร์ในปริมาณและความเข้มข้นที่เหมาะสมแล้ว ชาผู่เอ่อร์จะทำหน้าที่ป้องกันและเคลือบกระเพาะอาหาร ( เหมือนแผ่นฟิมล์บางๆ) เมื่อดื่มติดต่อกันจะช่วยดูแลกระเพาะอาหารให้ดีอยู่เสมอ
  5. ชาผู่เอ่อร์ มีแร่ธาตุบางชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย  เช่น  Calcium ที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของฟันและกระดูก
เมื่อเราทราบแล้วว่าชาผู่เอ่อร์มีประโยชน์ต่อสุขภาพของเรา ผมว่าเราควรหันมาดื่มชาผู่เอ่อร์กันมากๆน่ะครับ ....  แต่ที่สำคัญต้องเป็นผู่เอ่อร์ที่ดีน่ะครับ ไม่ใช่ชาปลอม การเลือกซื้อชาผู่เอ่อร์ต้องซื้อจากร้านที่ไว้ใจได้ด้วยน่ะครับ 


วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ป้านชาสวยๆ

วันนี่นั่งดูรูปป้านชาสวยๆ ครับ ฝรั่งเขาถ่ายรูปได้สวยจัง แสง สี ได้หมด เลยเอารูปมาฝากครับ


สำหรับผม ....ป้านชาที่สวยไม่ได้อยู่ที่เป็นป้านที่แต่งเติมอะไรลงไปจนดูสวย แต่เป็นป้านทรงมาตรฐานง่ายๆ แต่ทำให้ออกมาดูสมดุล ดูสวย สง่างาม ...  ไม่ใช่ทุกคนจะเจียวไข่ได้อร่อย


ใบนี้วาวจัง....เลี้ยงสะงามเลย
ใบนี่อ่อนซ้อย เป็นสาวงามจริงๆ 
รูปนี่สวย ผมชอบกังไสจัง ฮ่าๆๆ 
ทรงนี่ก็สวยเนอะ  อ้วนดีจัง 
ทรงนี่เราเห็นกันบ่อยๆ  
ขาสวยจังใบนี้ 

วันพุธที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2555

วันพ่อแห่งชาติ

พระราชดำรัส 5 ธันวาคม 2555
 "คำอวยพรเเละคำปฏิญาณสัญญา ที่ทุกท่านได้กล่าวนั้น เป็นที่ประทับใจมาก ขอขอบพระทัยเเละขอบใจท่านทั้งหลาย ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน ที่พรั่งพร้อมกันมาด้วยความปรารถนาดีเเละไมตรีจิต

ความปรารถนาดีเเละความพร้อมเพรียงกันของทุกท่าน อย่างที่ได้เห็นกันในวันนี้ ทำให้ข้าพเจ้าปลื้มใจ มีกำลังใจมากขึ้น ด้วยมีความเชื่อเสมอมาว่า ความเมตตาปรารถนาดีต่อกันนี้ เป็นปัจจัยอย่างสำคัญ ที่จะยังความพร้อมเพรียงให้เกิดมีขึ้น ทั้งในหมู่คณะเเละชาติบ้านเมือง เเละถ้าคนไทยเรายังมีคุณธรรมข้อนี้ประจำอยู่ในจิตใจ ก็มีความหวังได้ว่า บ้านเมืองไทยไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดๆก็จะอยู่รอดปลอดภัยเเละดำรงมั่นคงต่อไปได้ตลอดรอดฝั่งอย่างเเน่นอน 

ขออำนาจเเห่งคุณพระรัตนตรัยเเละสิ่งศักดิ์สิทธิ์จงคุ้มครองรักษาท่านเเละชาติไทยให้มีเเต่ความผาสุกร่มเย็นยั่งยืนไป"



........ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ.........
 ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า นายแวอัฟฟัล ราฮิม 

วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2555

การเก็บชาผู่เอ่อร์

เนื่องจากผมเป็นคนชอบดื่มชาผุ่เอ่อร์มาก เลยนั่งหาข้อมูลวิธีการเก็บชาผุ่เอ่อร์ว่าควรเก็บอย่างไร อ่านจากหลายๆที่ และคุยกับผู้รู้บ้าง วันนี่เลยเอามาเล่าให้ฟังครับว่าเป็นอย่างไรวิธีการเก็บชาผู่เอ่อร์

เราคงเคยได้ยินเรื่อง การเก็บแบบ"เปียก" และ "แห้ง" ว่ามันคืออะไร การเก็บแบบเปียก(โกดังเปียก) คือการเร่งปฏิกิริยาทำให้ชาผู่เอ่อร์พัฒนาตัวเร็วขึ้นครับ โดยการเพิ่มความชื่นเข้าไปในที่เก็บหรือโกดังครับ วิธีนี้จะทำให้ชาพัฒนาตัวเร็วขึ้นครับ แต่ก็มีข้อเสียคือชาอาจจะขึ้นราหรือมีจุดขาวๆบนตัวชาได้ครับ ถ้าเป็นเช่นนั้นหมายความว่าชาแผ่นนั้นก็เสีย ไม่สามารถดื่มได้เลย  เรามาดูรูปกันดีกว่าว่าชาผู่เอ่อร์ที่เก็บแบบเปียกหรือเก็บในโกดังเปียกเป็นแบบไหนครับ.....น่ากลัวเนอะ
ส่วนการเก็บแบบแห้งก็คือการเป็นในอุณภูมิปกติครับ ไม่ได้มีการเร่งปฏิกิริยาแต่อย่างใด....มาดูรูปกันดีกว่า......ใบสวยงามสะอาดตา ไม่มีสิ่งแปลกปลอมบนตัวชา
ส่วนปัจจัยที่มีผลกระทบต่อรสชาติของชาผู่เอ่อร์ประกอบด้วย

  1. การไหลเวียนของการอากาศ   ไม่ควรเก็บชาในถุงพลาสติกหรือภาชนะสูญญากาศ เพราะจุลินทรีย์ในชาผู่เออร์ต้องการอากาศที่ไหลเวียน ซึ่งการไหลเวียนของอากาศที่ต่อเนื่องและสม่ำเสมอจะทำให้ชาพัฒนาตัวดียิ่งขึ้น 
  2. อุณหภูมิที่เหมาะสม อุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดในการจัดเก็บคือระหว่าง 68-86 ° F (20-30 ° C) 
  3. ความชื่นที่เหมาะสม    
คราวนี่มาดูกราฟคุณภาพของใบชาที่เก็บในโกดังเปียกกับแห้งกันน่ะครับ   กราฟนี่เป็นการแยกระหว่างใบชาที่อัดแผ่นกับใบชาที่ไม่ได้อัดแผ่นน่ะครับ   ซึ่งเราจะพบว่าคุณภาพของใบชาที่เก็บแบบแห้งคุณภาพของใบชาจะดีกว่าแบบเปียกเกือบ 25 % ทั้งแบบอัดแผ่นและแบบไม่อัดแผ่น แล้วยังพบว่าช่วงอายุชาที่เก็บแบบเปียกก็สั้นกว่าการเก็บแบบแห้ง  เช่นชาที่อัดแผ่นที่เก็บแบบแห้งคุณภาพที่ดีที่สุดอยู่ที่ 100% อยู่ในช่วงอายุการเก็บที่ 40 - 50 ปี ส่วนการเก็บแบบเปียกคุณภาพชาที่ดีที่สุดอยู่ที่ 75% อยู่ในช่วงอายุการเก็บที่ 22-35 ปี  ซึ่งจากจุดนี้จะทำให้เห็นว่าทำไมจึงมีโกดังแบบเปียกเพราะว่าการเก็บวิธีนี่จะเป็นการเร่งปฏิกิริยาและร่นอายุทำให้สามารถนำชาออกมาจำหน่ายได้เร็วขึ้นกว่าการเก็บแบบแห้ง


วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เขาในสิบสองปันนา

คอชาผู่เอ่อร์ทุกท่านคงทราบกันดีว่า แหล่งใบชาผู่เอ่อร์คุณภาพเยี่ยมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ส่วนใหญ่มาจากยูนาน สิบสองปันนา .... เรามาดูกันดีกว่าสิบสองปันนา มีเขาทั้งหมดสิบสองลูก แต่ละลูกมีชื่อว่าอะไรกันบ้าง  ใครเคยดื่มชาจากเขาไหนมาบ้าง ชาแต่หละเขาก็มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะเขา ดื่มบ่อยๆก็จะจำได้ครับผม


วันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ต้ายี่ ผู่เอ่อร์สุก สูตร 7572 ปี 2004

กลับมาแล้วครับหลังจากไปกรุงเทพไปร่วมแสดงความยินดีกับพี่ในก๊วนชาในโอกาสพี่เค้าแต่งงานครับผม.....วันนี่ผมดื่มชาสุกครับ หลังจากเสียความรู้สึกกับชาของเต้าเซิงเกิน วันนี่เลยแก้ตัวโดยการดื่มชาจากต้ายี่ เป็นสูตร 7572 ปี 2004 ครับ คราวนี้ดื่มแล้วอารมณ์ดีเลยครับ เรามาดูชากันดีกว่า ....


กระดาษห่อด้านหน้าครับ...สังเกตดูโลโก้ด้วยน่ะครับ แบบเก่าตัวกลมๆครับผม....ของปลอมเยอะมากเดียวนี้ อันตรายน่ะครับ  ต้องขอประทานอภัยด้วยน่ะครับ รูปนี่ถ่ายไว้นานแล้ว ลืมแกะห่อพลาสติกออก ฮ่าๆ
มาดูโลโก้กันชัดๆครับ ... แบบเก่าต้องกลมๆน่ะครับ
ด้านหลังครับ ....วิธีการผับครับ แบบเก่า อะไรหายไปสังเกตดีๆน่ะครับ
เปิดชาออกมาก็เจอกระดาษแนะนำชาครับ
ดูใบชากันครับ..อย่าตกใจไปว่าทำไมชามันหายไปไหนหมด.... รูปนี่เป็นรูปที่ถ่าย ณ วันนี่เลยครับ สดๆร้อนๆ ที่หายไปก็ชงดื่มไปก็หลายรอบ ฮ่าๆๆ เลยมีหน้าตาแบบนี้ครับ
ด้านหลังครับ
ขอบชาครับ
คราวนี่มาดูน้ำชากันดีกว่า สี รส กลิ่นครับ .... สีชาครับ สีใสไร้ตะกอนครับ (ที่เห็นมีเศษใบชาเนื่องจากไม่ได้ใช้ตะแกรงกรองน่ะครับ)  สีชาบอกอายุครับผม สีน้ำชาต้องเป็นออกสีแดงหรือสีแดงเข้มๆครับ ไม่ใช้สีดำ  กลิ่นครับ หอม ตามแบบฉบับชาจากหม่งไห่ครับ ใครที่ดื่มบ่อยๆจะแยกแยะได้ครับ ชาแต่ละเขามีกล่ินเฉพาะตัวครับ  ไร้ซึ่งกลิ่นควันไฟครับ รสชาติครับ  เข้าปากสิ่งแรกที่ครับรู้ได้คือความนุ่มครับผม ตามมาด้วยความหวานครับ ดื่มแล้วลื่นคอ ชุ่มคอ   ไม่แสบคอ ไม่คอแห้งครับ   ชงได้ประมาณ  7  น้ำครับผม
กากชาครับ...กากชามีหลายสีครับผม เป็นสูตรของชาครับ  กากชาหมักมาดีครับ ไม่ยุ้ยไม่เละครับผม




วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

งานผู่เอ่อร์แฟร์ ที่มาเลเชีย

วันนี่เอารูปงานผู่เอ่อร์แฟร์ที่ประเทศมาเลเชียมาฝากครับ .....  ตอนแรกตั้งใจไว้ว่าจะไป แต่สุดท้ายก็อดไปจนได้ เนื่องจากคุณแม่ไปต่างจังหวัดผมจึงต้องอยู่ดูแลยายและน้องอยู่ที่บ้าน  (แอบเสียใจเล็กๆ)  แต่ไม่เป็นไร ปีหน้าก็มีค่อยไปก็ได้  .... ประเทศเพื่อนบ้านของเราวงการชาเขาพัฒนาไปไกลกันแล้ว เขามีงานชาปีละสองครั้งครับ  พอกลับมามองประเทศไทยงานเกี่ยวกับชาใหญ่ๆไม่มีแม้แต่ครั้งเดียว ไม่รู้ทำไมภาครัฐไม่ค่อยส่งเสริมสักเท่าไร ทั้งๆที่ทางภาคเหนือของประเทศไทยก็มีแหล่งปลูกชามากมาย ภาครัฐน่าจะร่วมมือกับภาคเอกชนจัดงานชาขึ้นปีละครั้งก็ยังดี  .....  เราคงต้องรอต่อไปว่าประเทศไทยของเราวงการชาจะพัฒนาไปในทิศทางใด

เขาจัดงานตั้งแต่วันที่ 9-18/11/2012 ครับผม เมืองไทยมีสักสี่วันผมก็ดีใจแล้ว
หนีห่าว..สวัสดีค่ะ ชาผู่เอ่อร์ของคุณเป็นไงบ้างค่ะ แนะนำสินค้าหน่อยค่ะ.....
ร้านนี้ขายป้านชา....ไม่ต้องรีบๆเดียวผมชงให้ดื่มทุกคนครับ ...
ป้านชาเต็มเลย ..... เอาใบไหนดีน่า......
ชาผู่เอ่อร์เยอะแยะเลยครับ..... ชอบแบบไหนค่ะ เรามีทั้งสุกทั้งดิบค่ะ ...  แต่ไม่มีให้ชิมน่ะค่ะ ฮ่าๆๆ(เพราะว่าไม่เห็นมีโต๊ะชงชา)
ร้านนี้ใหญ่จังเลย....ชอบแบบไหนค่ะ เรามีให้ชิมทุกแบบค่ะเลือกที่นั่งได้เลย เดียวชงให้ชิมค่ะ
ไม่ใช่ชาผุ่เอ่อร์ก็มีน่ะ.....อุปกรณ์ก็มีด้วย
น่าจะเป็นชาจากเกาะใต้หวัน....มาไกลจังเลย
รับผู่เอ่อร์กลับไปดื่มที่บ้านไมค่ะ 
เย้่ๆ.....ผมได้ชาแล้วน่ะ ดื่มๆสักจอก เดียวผมจะกลับบ้านแล้ว  ปีหน้าเจอกันใหม่น่ะอาตี๋


ป.ล. วันที่ 22-24 นี้ ผมจะไปกรุงเทพน่ะครับ ... กลับมาจะกลับมาอัพบล็อกครับผม .... เจอกันทักทายกันได้น่ะครับ คงเดากันออกว่าผมจะไปดื่มชาที่ไหน ฮ่าๆๆ