พอคิดถึงคำพูดนี่เลยนึกออกว่าตัวเองก็มีชาพอมีอายุแต่ก็ไม่ได้เก่ามากมายอะไร ซึ่งชาดั่งกล่าวคือ ชาต้ายี่ม่วง สูตร 7572 ปี 2002 ล็อต 204 ทุกท่านคงทราบกันดีกว่ามีชาต้ายี่ม่วงรุ่นหนึ่งที่โด่งดั่งอยู่รุ่นหนึ่งของปี2002คือรุ่นด้ายแดง เป็นชาต้ายี่สูตร 7572 ปี 2002 เช่นกัน แต่รุ่นดังกล่าวเป็นล็อต 208 ตัวดังกล่าวผมไม่มีน่ะครับ(ไม่มีทุนทรัพย์เพียงพอในการได้มาครอบครอง) ชาแผ่นนี่สังเกตดีๆน่ะครับ ตั้งแต่โลโก้ การผับ และอีกมากมาย เพราะว่าเป็นชาที่ผลิตก่อนช่วงที่โรงงานจะขายไปให้เอกชน ชาต้ายี่โลโก้เก่าแบบนี่ราคาก็ค่อนข้างแพงเอาการ ที่สำคัญของปลอมเยอะครับ ของแท้นับวันหายากเรื่อยๆ คราวนี่มาดูกันครับ
(ต้องขออภัยรูปบางรูปถ่ายไม่ชัด เนื่องจากถ่ายไว้นานแล้วและดันลืมเปิดแฟรชเรยไม่ชัดบ้างบางรูป)
มาดูหน้าตาชากันครับ .......... ป็นโลโก้กลม หลังจากปี 2004 ไปจะเป็นโลโก้ใหม่ครับ
ด้านหลังครับ.......(ต้องขออภัยรูปถ่ายมึดไปครับ)...ดูวิธีการผับรุ่นเก่า ผับแบบนี่นะครับ แกะออกมาแล้วผับให้เป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว .......ที่สำคัญสังเกตเห็นอะไรหรือเปล่า ว่าอะไรหายไป....คำตอบคือ สกิตเกอร์ รุ่นเก่าไม่มีสติกเกอร์ครับ
ดูกันอีกรอบชัดๆ......ว่าผับกันยังไง อ่ออย่าลืมดูเนื้อกระดาษห่อด้วยน่ะ
ต่อมา...กระดาษห่อครับ กระดาษรุ่นเก่าเป็นแบบนี่นี้เอง ....บางดีจัง
ถึงเวลามาดูใบชากันบ้างแล้วครับ.....เน่ยแผ้วครับ
ซูมๆๆ......เห็นอะไรหรือเปล่าเอ๋ย......รอยผ้าตอนอัดใบชามีรอยผับด้วยน่ะสังเกตดีๆน่ะ ^_^
ทุกรายละเอียดมีความสำคัญหมด.....แม้กระทั่งขอบชา
แซะๆ..........ชงดื่มครับ
สี กลิ่น รส ของน้ำชาน่ะครับ
สีของน้ำชา จะบ่งบอกอายุของชาครับ ชาผู่เอ่อร์สุกที่ดีต้องใส่ ไม่มีตะกอน สีชาจะออกแดงเข้มๆ ไม่ใช่สีดำตามที่เข้าใจกันว่าต้องดำๆ กลิ่น หอมตามเอกลักษณ์ของเขาหม่งไห ชาแต่ละเขามีกลิ่นที่แตกต่างกัน ถ้าคนที่ดื่มบ่อยๆจะแยกออกครับ ตรงนี่ปลอมกันไม่ได้ ชาสุกที่ดีต้องไม่มีกล่ินสาบเหม็นๆ อีกอันหนึ่งที่ปลอมไม่ได้คือ รสชาตครับ รสชาติ นุ่มนวล หวานครับ ดื่มแล้วไม่คอแห้ง แสบคอ คอแห้ง ถ้าใครดื่มแล้วมีลักษณ์ต้องห้ามตามที่กล่าวก็ตัดใจทิ้งชาไปเลย สุขภาพร่างกายสำคัญกว่าเยอะ อย่าไปเสียดาย เก็บคอไว้ดื่มชาดีๆ ดีกว่าครับ
ชาตัวนี้รสดีครับ ขอบคุณพี่แวที่แบ่งปันชาดีๆให้ดื่ม และขอบคุณความรู้ดีๆและชาดีๆครับ
ตอบลบยินดีๆจ้า....ชาดีเก็บไว้กินคนเดียวคงไม่อร่อย ต้องแบ่งๆกันดื่ม
ลบขอบคุณครับผม