เราคงเคยได้ยินเรื่อง การเก็บแบบ"เปียก" และ "แห้ง" ว่ามันคืออะไร การเก็บแบบเปียก(โกดังเปียก) คือการเร่งปฏิกิริยาทำให้ชาผู่เอ่อร์พัฒนาตัวเร็วขึ้นครับ โดยการเพิ่มความชื่นเข้าไปในที่เก็บหรือโกดังครับ วิธีนี้จะทำให้ชาพัฒนาตัวเร็วขึ้นครับ แต่ก็มีข้อเสียคือชาอาจจะขึ้นราหรือมีจุดขาวๆบนตัวชาได้ครับ ถ้าเป็นเช่นนั้นหมายความว่าชาแผ่นนั้นก็เสีย ไม่สามารถดื่มได้เลย เรามาดูรูปกันดีกว่าว่าชาผู่เอ่อร์ที่เก็บแบบเปียกหรือเก็บในโกดังเปียกเป็นแบบไหนครับ.....น่ากลัวเนอะ
ส่วนการเก็บแบบแห้งก็คือการเป็นในอุณภูมิปกติครับ ไม่ได้มีการเร่งปฏิกิริยาแต่อย่างใด....มาดูรูปกันดีกว่า......ใบสวยงามสะอาดตา ไม่มีสิ่งแปลกปลอมบนตัวชา
ส่วนปัจจัยที่มีผลกระทบต่อรสชาติของชาผู่เอ่อร์ประกอบด้วย
- การไหลเวียนของการอากาศ ไม่ควรเก็บชาในถุงพลาสติกหรือภาชนะสูญญากาศ เพราะจุลินทรีย์ในชาผู่เออร์ต้องการอากาศที่ไหลเวียน ซึ่งการไหลเวียนของอากาศที่ต่อเนื่องและสม่ำเสมอจะทำให้ชาพัฒนาตัวดียิ่งขึ้น
- อุณหภูมิที่เหมาะสม อุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดในการจัดเก็บคือระหว่าง 68-86 ° F (20-30 ° C)
- ความชื่นที่เหมาะสม
คราวนี่มาดูกราฟคุณภาพของใบชาที่เก็บในโกดังเปียกกับแห้งกันน่ะครับ กราฟนี่เป็นการแยกระหว่างใบชาที่อัดแผ่นกับใบชาที่ไม่ได้อัดแผ่นน่ะครับ ซึ่งเราจะพบว่าคุณภาพของใบชาที่เก็บแบบแห้งคุณภาพของใบชาจะดีกว่าแบบเปียกเกือบ 25 % ทั้งแบบอัดแผ่นและแบบไม่อัดแผ่น แล้วยังพบว่าช่วงอายุชาที่เก็บแบบเปียกก็สั้นกว่าการเก็บแบบแห้ง เช่นชาที่อัดแผ่นที่เก็บแบบแห้งคุณภาพที่ดีที่สุดอยู่ที่ 100% อยู่ในช่วงอายุการเก็บที่ 40 - 50 ปี ส่วนการเก็บแบบเปียกคุณภาพชาที่ดีที่สุดอยู่ที่ 75% อยู่ในช่วงอายุการเก็บที่ 22-35 ปี ซึ่งจากจุดนี้จะทำให้เห็นว่าทำไมจึงมีโกดังแบบเปียกเพราะว่าการเก็บวิธีนี่จะเป็นการเร่งปฏิกิริยาและร่นอายุทำให้สามารถนำชาออกมาจำหน่ายได้เร็วขึ้นกว่าการเก็บแบบแห้ง
ขอบคุณที่ให้ความรู้ครับ
ตอบลบมิกล้าๆครับ ผมคุณจาง
ลบขอบคุณครับ
แว
ยอดเยี่ยมมากครับคุณแว ได้ความรู้ดีมาก
ตอบลบมน ปทุมธานี
ขอบคุณครับคุณมน
ลบพี่แว ถ้าว่างๆรบกวรลงประโยชน์ของผู๋เออร์ทั้งดิบและสุกไว้เป็นความรู้หน่อยครับ
ตอบลบมิก
ได้ๆ เดียวหาข้อมูลให้ก่อนน่ะ
ลบ