สวัสดีครับผม .... ช่วงนี่ผมอยู่ในช่วงปิดบัญชีครับ เลยไม่ค่อยมีเวลาอัพบล็อกเลยครับ กว่าจะออกจากออฟิตก็เกือบเที่ยงคืนทุกวันเลยครับผม แต่ผมได้ดื่มชาทุกวันเลยน่ะครับ เพราะว่าผมเอาชุดชาไปไว้ที่โต๊ะทำงานผมเลย ^_^ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า มีผู้ใหญ่ใจดีและเป็นผู้ใหญ่ที่ผมนับถือในวงการชาท่านกรุณาส่งชามาให้ผมชิมครับผม เป็นชาป่า ปิงเต่าปี 2009 ฉุนแล่วครับผม ต้องขอขอบพระคุณท่านมากๆที่ส่งชามาให้ชิมน่ะครับ ชาปิงเต่า ผมได้มีโอกาส ตั้งแต่ปี 2009-2012 ผมว่าชาแต่ละปีก็ไม่เหมือนกันครับผม ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และสภาพแวดล้อมในแต่ละปี มีผลทำให้รสชาติและกลิ่นของชาต่างกันออกไปครับ ถ้าเพื่อนๆดื่มชาตัวไหนปีไหนแล้วรสชาติและกล่ินดี ผมแนะนำให้ซื้อมาเก็บไว้เยอะๆครับ เพราะไม่แน่ปีถัดไปรสชาติชาล็อตใหม่อาจไม่เหมือนเดิมครับ และองค์ประกอบที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งคือการเก็บครับ ทุกอย่างสำคัญเท่าเทียมกันครับ ... ชาอะไรนี้ เก็บยากกว่าทองอีก ฮ่าๆๆ คราวนี่มาดูชากันดีกว่าครับ
สีใบชาเข้มแล้วครับ ตามอายุของเค้าครับผม ชาอายุ 5 ขวบปีแล้วครับ
มาชงดื่มกันดีกว่า เมื่อพูดถึง สี กลิ่น รส ครับ สีครับ สีเหลืองเข้มตามอายุของชาครับ น้ำชาใสสะอาด ( ที่เห็นมีเศษชา เพราะว่าผมไม่ชอบใช่ตะแกรงกรองครับ) กล่ินครับ กลิ่นนี่มันหอมเป็นกลิ่นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของปิงเต่าครับ ผมว่ามันหอมหวานๆ บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าหอมคล้ายอะไรครับ แต่ถ้าใครที่ดื่มบ่อยๆจะรู้เลยว่ากลิ่นนี่คือกล่ินของชาปิงเต่า กลิ่นมันอาจจะไม่เหมือนชาอายุใหม่ๆหน่อยน่ะครับ ส่วนของรสชาติครับ บอกได้เลยว่ามัน นุ่มและหวานมาก แต่ในความนุ่มยังมีความเข้มข้นของรสชาติครับ ดื่มแล้วหวานในลำคอครับผม ที่สำคัญเมื่อดื่มไปแล้วความหอมของชายังอบอวลในปากอยู่เลยครับ
กากชาครับ.....ใบชาใหญ่ครับ ที่เห็นมีก้านนั้น เป็นก้านที่ติดมากับยอดของใบชาครับ ไม่ใช่ก้านชาแก่ๆครับ
สุดท้ายเอารูปโต๊ะทำงานพร้อมชุดชามาให้ดู ฮ่าๆๆ ทำงานจะได้ไม่เคลียดครับ เพราะมีชาให้ดื่ม ฮ่าๆๆ